โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ

5 มิถุนายน 2016

ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 063; ดู Me Before You หนังที่สร้างจากนวนิยายขายดีของ โจโจ โมยิส (นามปากกาของ พอลีน ซารา โจ โมยิส นักเขียนชาวอังกฤษ) ซึ่งโดนนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้พิการออกมารุมประณามว่าเป็นสื่ออันตรายเพราะนำเสนอความพิการในแง่ลบขั้นสุด และพอมาสร้างเป็นหนังก็โดนสับเละไม่แพ้กัน แต่ดิฉันดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นนะ กลับรู้สึกว่า คนเราไม่ว่าจะพิการหรือไม่ก็ตาม ล้วนมีสิทธิเต็มที่ในชีวิตของตัวเอง #ก็ไม่รู้สินะ

ที่มารูป: https://cdn.traileraddict.com

ไม่บ่อยนักที่หนังโรแมนติกดรามาซึ่งนำเสนอในแนวอบอุ่น น่ารัก คิกคัก วี้ดวิ่ว แบบหนังเรื่องนี้ จะมีเนื้อหาที่สามารถตีความได้หลากหลายและก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ทั้งนี้ เพราะหนังไม่เป็นไปตามที่เราคิดว่าควรจะเป็น พอมันไม่เป็นอย่างนั้นปุ๊บ เราก็สะดุด สะอึก สะพรึง แล้วก็ต้องมานั่งคิดละว่าอะไรของมันกันวะเนี่ย ซึ่งคำตอบที่แต่ละคนได้รับก็แล้วแต่จริตของแต่ละคนเลย และใครจะได้ข้อคิดอะไรจากหนังเรื่องนี้บ้าง ก็แล้วแต่การตีความของแต่ละคนเช่นกัน #เก๋ตรงนี้

พระเอกนางเอกเรื่องนี้ออร่าพุ่งมากเชียว พระเอกคือ แซม คลาฟลิน ตอนแสดงเป็นฟินนิก ใน The Hunger Games หน้ายังแหลมๆ อยู่ ตอนนี้อายุมากขึ้น หน้าเข้ารูปแล้ว กำลังกิน เอ๊ย! กำลังหล่อเลย ส่วนนางเอกคือ เอมิเลีย คลาร์ก ผู้โด่งดังจากบท แดเนอรีส ทาร์แกเรียน “ขุ่นแม่มังกร” แห่งซีรีส์ Game of Thrones ในหนังเรื่องนี้นางเล่นเป็นสาวสดใสโก๊ะกังที่มีความเป็นตัวของตัวเองม้ากก แต่กลับไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเท่าไหร่ ส่วนพระเอกเป็นคนที่ใช้ชีวิตเต็มที่และประสบความสำเร็จทุกอย่าง แต่ต้องมาสะดุดหยุดลงเมื่อประสบอุบัติเหตุเป็นอัมพาตเกือบทั้งตัว สองคนนี้หลังจากได้มาพบและรักกัน ชีวิตของพวกเขาก็เปลี่ยนไปแตกต่างจากก่อนที่จะได้พบกัน แต่ในรายละเอียดของความเป็นชีวิตนั้น หนังยังเปิดโอกาสให้เราคิดได้อีกเยอะ ชื่อ Me Before You จึงเป็นชื่อที่สตรองมาก ชื่อไทยใช้ “มี บีฟอร์ ยู” ยังงี้เลยฮ่ะ ไม่ตั้งชื่อภาษาไทยเลย ซึ่งก็ดีนะ เพราะมันเป็นชื่อที่เปิดกว้างให้แก่การตีความจริงๆ

สรุป: จ่าย 120 ได้กลับมา 150

หมายเหตุ: ดิฉันว่าโปสเตอร์หนังเรื่องนี้เรียบง่ายมาก แต่เฉียบขาด สามารถบ่งบอกความเป็นพระเอกนางเอกได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแววตาของทั้งสอง สื่อความหมายได้อย่างลึกล้ำ ซึ่งเราจะเข้าใจความหมายได้แท้จริงก็ต่อเมื่อได้ดูหนังแล้วอ่ะนะ ถ้ายังไม่ได้ดูจะรู้สึกว่าก็แค่แววตาของคนรักกันตามธรรมดา

หมายเหตุอีกที: คลาร์กกับคลาฟลินเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าในการสื่อสารได้อย่างยอดเยี่ยม ความจริงคลาร์กเนี่ยต้องพูดว่าเล่นทั้งตัวจริงๆ ตั้งแต่กระหม่อมจรดหัวแม่เท้า เป็นนักแสดงที่สามารถกลืนตัวละครเข้าไปแล้วระเบิดความเป็นตัวละครนั้นออกมาด้วยทุกอณูของร่างกาย ส่วนคลาฟลินในเรื่องนี้เล่นได้แค่หน้ากับดวงตา เพราะเดี้ยงอยู่ แต่แสดงได้ดีกว่าตอนที่เล่นเป็นคนครบสามสิบสองอีกอ่ะ #ฮ็อตมวากกกกก