ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 025; ดู Kingsman: The Secret Service ที่ลิโด ได้ดูทันก่อนลาโรง สะใจ!

ที่มารูป: joblo.com

กราบค่ะ ของเค้าดีจริงๆ หนังบ้าอะไรไม่รู้สนุกชิบโผง ผกก.แมตธิว วอห์น ผู้นี้ ตอนที่ทำ Stardust, Kick-Ass และ X-Men: First Class ก็ว่าสนุกมากแล้ว Kingsman สนุกกว่าร้อยเท่าพันทวี หนังมีบทประพันธ์ตั้งต้นที่ดีคือหนังสือการ์ตูนชื่อดังเรื่อง The Secret Service ซึ่งเป็นการ์ตูนสายลับ ล้อเลียนขนบ (tradition) ของหนังสายลับแนวเจมส์ บอนด์ 007 แมตธิว วอห์น เขียนบทเองร่วมกับ เจน โกลด์แมน คู่หูดูโอที่เขียนด้วยกันมาตั้งแต่ Stardust มีการดัดแปลงจากหนังสือพอสมควร แต่ก็ดัดและแปลงได้อย่างมีรสนิยมมาก

หนังเล่าเรื่องขององค์กรลับ “คิงส์แมน” ซึ่งทุกคนที่อยู่ในสังกัดจะใช้ชื่อตัวละครจากตำนาน “กษัตริย์อาเธอร์กับอัศวินโต๊ะกลม” เป็นโค้ดเนมของตน โดยหัวหน้าองค์กรใช้ชื่อ “อาเธอร์” (ก็แหงอยู่แล้ว) ตามท้องเรื่องนั้น สายลับนาม “ลานสล็อต” พลาดท่าถูกสังหารระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สายลับคนอื่นๆ จึงต้องสรรหาเด็กหนุ่มสาวมาเข้าค่ายฝึกเพื่อคัดเลือกเป็นลานสล็อตคนใหม่ โดยมี “เมอร์ลิน” ทำหน้าที่ครูฝึก (ก็แหงน่ะสิ) ในการนี้ หนึ่งในสายลับคนสำคัญ คือ “กาลาแฮ้ด” ได้ส่งเด็กหนุ่มเหลือขอ “เอ็กซี่” เข้าประกวด นอกจากจะต้องผ่านการทดสอบที่ทั้งโหดและป่วนประสาทสุดๆ แล้ว เอ็กซี่ยังต้องเป็นกำลังสำคัญในการต่อกรกับวายร้ายจอมเนิร์ด “ริชมอนด์ วาเลนไทน์” ผู้มีสมุนคู่ใจเป็นหญิงสาวสวยที่มีขาทั้งสองข้างเป็นดาบคมกริบด้วย (แค่พล็อตกับคาแรกเตอร์ตัวละครก็แซบแล้ว)

สำหรับดิฉัน ความสนุกของหนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่มันเป็นหนังยั่วล้อ เพราะดูแล้วก็ไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ว่าเขาล้ออะไรบ้าง นอกจากบางอย่างที่หนังสายลับหลายๆ เรื่องใช้กันซ้ำๆ จนกลายเป็นขนบจริงๆ แต่คนไม่รู้อย่างดิฉันก็ยังสนุกกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะมันเต็มไปด้วย ‘ความคาดไม่ถึง’ ชนิดที่ว่าไม่ต้องคาดเดาอะไรไปก่อนเลย ปวดกบาลเปล่าๆ ปล่อยให้หนังพาเราหกคะเมนตีลังกาไปเลย ที่จริงความคาดไม่ถึงประการหนึ่งเริ่มตั้งแต่การที่ ผกก.เลือก โคลิน เฟิร์ธ มารับบทกาลาแฮ้ดแล้ว เพราะตัวละครตัวนี้บู๊สะบัดช่อ ในขณะที่ลุงแกเน้นฝ่ายบุ๋นมาตลอดชีวิต การได้ดูแกเล่นบทบู๊อย่างพลิ้วไหวและเท่สาดแม้กระทั่งตอนกางร่มกันกระสุน จึงเป็นความเซอร์ไพรส์ที่ยากจะลืมเลือน ที่สำคัญ ใช่เพียงลุงเท่านั้นที่เท่ลืมโลก เพราะตัวละครทุกตัวต่างก็มีเสน่ห์และมีช่วงเวลาโดดเด่นของตัวเอง ฉากแอ็กชันทุกฉากก็ทำได้อลังการติดตาตรึงใจจนน่าจะได้รางวัลคิวบู๊ยอดเยี่ยม แล้วหนังก็พีคขึ้นเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายนี่แทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้กันเลย ตื่นเต้นเกิ๊น ช่วงฮาก็ฮากันซะกระบังลมเมื่อย เพราะมุขมันเลิศสะแมนมาก ไม่มีมุขกากๆ ให้รำคาญใจ หนังยั่วล้อที่ทำได้สนุกขนาดนี้โดยไม่ต้องพึ่งพาการยั่วล้อเพียงอย่างเดียว หากให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบ คนดูก็ทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจาก…กราบค่ะ

สรุป: จ่าย 100 ได้กลับมา 140

โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ

21 มีนาคม 2015