ดูหนังอย่างคนเบี้ยน้อยหอยน้อย 120; ทีแรกว่าจะบอกผ่าน แต่เห็นว่ามันเป็นหนังเปิดจักรวาล Dark Universe ก็เลยต้องดู The Mummy เวอร์ชันโบท็อกซ์ เอ๊ย! รีบูต สักหน่อย #มือลั่น

ปี 2017 นี้น่าจะได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นยุคทองของจักรวาลภาพยนตร์และละครทีวี เพราะค่ายหนังใหญ่ๆ ต่างก็มีจักรวาลของตัวเองกันทั้งนั้น อย่างมาร์เวลสตูดิโอส์ก็มีจักรวาลหนังและละครซูเปอร์ฮีโร่ ที่เรียกว่า Marvel Cinematic Universe (MCU) ฝ่ายวอร์เนอร์บราเธอร์ส ก็สร้าง DC Extended Universe (DCEU) จากการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ของดีซีคอมิกส์ ทั้งยังร่วมกับเลเจนเดอรีเอนเตอร์เทนเมนต์ และโตโฮของญี่ปุ่น สร้างจักรวาลหนังสัตว์ประหลาด MonsterVerse ด้วย ทางด้านยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สซึ่งมีลิขสิทธิ์ตัวละครปิศาจและอสุรกายอยู่หลายตัว เพราะว่าทำหนังแนวนี้ออกมาเยอะแยะตั้งแต่ยุคหนังเงียบหนังขาวดำ ก็เลยดำริจะมีจักรวาลภาพยนตร์ปิศาจของตนเองบ้าง ให้ชื่อว่า Dark Universe (จักรวาลมืด) โดยเริ่มจาก The Mummy ก่อน จากนั้นก็จะมีปิศาจอื่นๆ ตามมา เช่น แฟรงเกนสไตน์ มนุษย์หมาป่า แดรกคูล่า แวน เฮลซิง อะไรงี้เป็นต้น

ก่อนจะมาถึงยุค Dark Universe ยูนิเวอร์แซลสร้างหนังมัมมี่มาแล้ว 9 เรื่อง คือในช่วงทศวรรษที่ 1930s-1950s 6 เรื่อง กับหนังไตรภาคที่เรียกกันว่า The Mummy Trilogy อีก 3 เรื่อง ได้แก่ The Mummy (ปี 1999) The Mummy Returns (ปี 2001) และ The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor (ปี 2008) ในบรรดาหนังทั้ง 9 เรื่อง The Mummy ในปี 1999 ถือเป็นความสำเร็จสูงสุด ซึ่งทำให้มัมมี่ของยูนิเวอร์แซลกลับมาผงาดได้อย่างสวยงามหลังจากห่างหายไปเกือบ 50 ปี หนังเรื่องนี้เป็นเวอร์ชันรีเมคของ The Mummy เรื่องแรกในปี 1932 มีตัวร้ายเป็นนักบวชและอัครมหาเสนาบดีในราชสำนักฟาโรห์ นามว่า อิมโฮเทป ซึ่งถูกลงโทษสถานหนักด้วยการทำมัมมี่ทั้งเป็น ความลงตัวทุกอย่างของหนัง ไม่ว่าจะเป็นบทบาทและคาแรกเตอร์ของพระเอก นางเอก ตัวประกอบ ตัวร้าย ความตื่นเต้นลุ้นระทึกและอารมณ์ขันที่ผสมผสานกัน รวมทั้งความน่าตื่นตาตื่นใจในเรื่องราวและเทคนิคพิเศษซึ่งมีลักษณะสร้างสรรค์หลายอย่าง ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในตำนานของหนังมัมมี่ และแจ้งเกิดเบรนแดน เฟรเซอร์ กับเรเชล ไวซ์ นักแสดงที่แทบไม่มีใครรู้จักก่อนหน้านั้น ให้กลายเป็นพระเอกนางเอกที่ ‘พอป’ ที่สุดในทันที (เขียนตามราชบัณฑิตยสภา หุๆๆ)

ส่วนในจักรวาลมืด หนัง The Mummy และหนังปิศาจอื่นๆ ทั้งหมดที่จะตามมา จะเป็นหนังรีบูต คือแต่งเรื่องใหม่หมด แล้วสร้างความเชื่อมโยงให้ทุกเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน การเปิดจักรวาลด้วยหนังมัมมี่ มองในแง่หนึ่งก็เป็นการรับประกันความเสี่ยง เพราะมีความสำเร็จของเวอร์ชันปี 1999 เป็นฐานรองรับที่ดีอยู่แล้ว แต่มองอีกแง่ก็อาจจะเป็นความเสี่ยงเสียเอง ถ้าความสำเร็จของเวอร์ชัน 1999 กลายเป็นการตั้งมาตรฐานไว้สูงจนยากที่จะทำได้ดีกว่า

ที่มาภาพ: impawards.com

หนังตั้งต้นด้วยการคิดใหม่ทำใหม่ โดยให้มัมมี่ในเรื่องนี้เป็นผู้หญิง ชื่ออาห์มาเนต (แสดงโดย โซเฟีย โบเทลลา) และให้องค์กรลับชื่อ “โพรดิเจียม” (Prodigium ภาษาละติน แปลว่า สิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์) เป็นศูนย์กลางที่จะเชื่อมโยงหนังทุกเรื่องในจักรวาลเข้าด้วยกัน องค์กรนี้ก่อตั้งโดย ดร. เฮนรี เจกิลล์ (แสดงโดย รัสเซลล์ โครว์) มีภารกิจในการเสาะแสวงหาปิศาจทั่วโลก เพื่อให้มาช่วยกันปราบปิศาจชั่วร้าย เป็นการใช้ปิศาจปราบปิศาจ เพราะคนธรรมดาย่อมไม่มีความสามารถที่จะปราบได้ ดังนั้น เมื่ออาห์มาเนตถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ นิก มอร์ตัน (แสดงโดย ทอม ครูส) ทหารรับจ้างผู้มีอาชีพเสริมเป็นโจรลักลอบขโมยและขายสมบัติโบราณของประเทศคู่สงคราม องค์กรโพรดิเจียมจึงถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องเข้ามาเผือก เอ๊ย! เข้ามาจัดการ

เห็นได้ว่า หนังจงใจวางคาแร็กเตอร์นิก มอร์ตัน ให้เป็นคนที่มีความดีความเลวปะปนกัน ซึ่งจริงๆ ดิฉันก็ชอบนะที่หนังมีอุปมาบางอย่างเกี่ยวกับความดีความชั่วในจิตใจมนุษย์ ว่าคนเรามีทั้งด้านมืดและด้านสว่างอยู่ในตัว สุดแต่เราจะให้ด้านไหนเป็นใหญ่ ประเด็นนี้น่าจะเป็นแกนกลางของหนังทุกเรื่องในจักรวาลมืดเลยด้วยซ้ำ เห็นได้จากภารกิจขององค์กรโพรดิเจียมและ ดร. เจกิลล์ ผู้เป็นหัวหน้าองค์กร ซึ่งหลายๆ ท่านก็น่าจะเดาได้ตั้งแต่ได้ยินชื่อแล้วล่ะว่าแกคือใคร แต่ความพลาดของหนังก็คือ บทหนังกลับไม่ชัดเจนพอที่จะแสดงให้เห็นด้านมืดด้านสว่างที่ปะทะสังสรรค์กันในตัวนิก เราจะเห็นก็แต่ด้านสว่างที่ถูกขับเน้นออกมา แล้วพอมีแต่ด้านสว่าง พี่ทอมแกก็เล่นเป็นอีธาน ฮันต์ ใน Mission Impossible ราวกับแกถูกปิศาจอีธาน ฮันต์ เข้าครอบงำจิตวิญญาณจนไม่สามารถรับบทอื่นที่แตกต่างได้แล้ว ตัวละครนิก มอร์ตันก็เลยจืดไปถนัด

ส่วนอาห์มาเนต ทีแรกคิดว่าจะแซ่บ แต่ปรากฏว่าก็จืดไม่แพ้กัน เพราะหนังวางบทบาทให้เป็นเพียงนางอิจฉา ที่มีมิชชั่นคือเอาอีธาน ฮันต์เป็นปั๋ว สุดท้ายมิชชั่นก็อิมพอสสิเบิ้ลไป เพราะเขามีนางเอกของเขาอยู่แล้ว

ดูจบ นึกไม่ออกว่าตื่นเต้นที่สุดในฉากไหน รู้แต่ว่ามัมมี่ไม่น่ากลัว และนี่ไม่ใช่หนังมัมมี่ แต่เป็นหนังเปิดตัวปิศาจอีกตนหนึ่ง ซึ่งไม่น่ากลัวเช่นเดียวกัน สวัสดี

สรุป: จ่าย 140 ได้กลับมา 99 #เลขสวยนะ

โดย ปวิวัณณ์ คำเจริญ

14 มิถุนายน 2560

(ขอบคุณภาพปกจาก impawards.com)